ความร้อนเป็นสิ่งที่เรานำมาใช้ในชีวิตประจำวัน และในการทำงานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการผลิตสินค้าเช่นการหลอมโลหะ งานอบ เผาเเละงานอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ซึ่งคุณรู้หรือไม่ นอกจากการที่ความร้อนที่เกิดจากกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้คุณเหงื่อออก เเละรู้สึกไม่สบายตัวเเล้ว ยังส่งผลให้ร่างกายเสียการรักษาสมดุลของความร้อนภายในร่างกาย ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อภาวะผิดปกติดังนี้
การเป็นตะคริวจากความร้อน (Heat Cramp)
เมื่อร่างกายได้รับความร้อนมากเเละนานเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อสูญเสียน้ำ เเละเกลือแร่ออกไปพร้อมกับเหงื่อมากเกินไป ส่งผลให้กล้ามเนื้อเกิดอาการเกร็ง จนทำให้เกิดตะคริว ซึ่งอาจส่งผลอันตรายต่อพนักงานได้
เป็นลมเนื่องจากความร้อนในร่างกายสูง (Heat Stroke)
เมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเเละนานต่อเนื่อง อาจนำไปสู่อาการคลื่นไส้ ตาพร่า หมดสติ ประสาทหลอน โคม่า และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตทั้ังจากอาการดังกล่าว เเละอุบัติเหตุระหว่างการปฏิบัติงาน
การอ่อนเพลียเนื่องจากความร้อน (Heat Exhaustion)
เกิดจากการที่ระบบหมุนเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่เต็มที่เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำเเละเเร่ธาตุมากเกินไป ทำให้เรารู้สึกอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เป็นลม หน้ามืด ชีพจรเต้นอ่อนลง คลื่นไส้ อาเจียน ตัวซีด ทำให้ไม่มีสมาธิในการทำงาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เเละอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการทำงานได้
นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดอาการผดผื่นขึ้นตามดบริเวณผิวหนัง (Heat Rash) ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของระบบต่อมเหงื่อทำให้ผื่นขึ้น เมื่อมีอาการคันอาจมีอาการคันอย่างรุนแรงเพราะท่อขับเหงื่ออุดตันและเกิดการขาดน้ำ (Dehydration) เกิดอาการกระหายน้ำ ผิวหนังแห้ง น้ำหนักลด อุณหภูมิสูง ทำให้ชีพจรเต้นเร็ว รู้สึกไม่สบาย
ในทางปฏิบัติเเล้วเราคงหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนในการทำงาน เเละในชีวิตประจำวันเราได้ยาก เเต่เราสามารถที่จะปกป้องร่างกายของเราจากความร้อนเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการดังกล่าวได้ ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. ติดตั้งอุปกรณ์ระบายความร้อนให้กับพนักงานอาทิเช่น พัดลม เครื่องปรับอากาศ เพื่อกระจายความร้อนออกจากพนักงานที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้พนักงานรู้สึกสบายตัวขึ้น
2. ใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น เสื้อ หรือชุดเสื้อคลุมพิเศษที่มีคุณสมบัติกันความร้อน เพื่อลดการสัมผัสกับคลื่นความร้อนจากการปฏิบัติงาาน
3.การเป่าอากาศเย็นที่จุดที่ทำงานผ่านทางพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเพื่อลดอุณหภูมิในพื้นที่ปฏิบัติงาน
4 จำกัดระยะเวลาการทำงานที่ต้องสัมผัสกับความร้อนโดยตรงเช่นงานหลอม หรืองานอบ เพื่อลดระยะเวลาที่จะสัมผัสกับความร้อน
5.การลดปริมาณความร้อนที่ออกมาจากแหล่งกำเนิด อาทิเช่น เครื่องจักร ให้มากที่สุด โดยการใช้ฉนวน (Insulator) ฉากป้องกันรังสี (Radiation Shieding) หรือฉากอลูมิเนียมบางๆ (Aluminium foil) หุ้มแหล่งกระจายความร้อน เพื่อกั้นความร้อนไม่ให้ไปถึงพนักงานมากเกินไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
สสปท:
รพ. จะนะ :
bangkokinternationalhospital: